Hunts poin :In the car #minjae

แจฮยอนโดนเพื่อนเท ตอนนี้เขายืนอยู่ใต้เสาไฟติดๆดับๆใกล้ผับ X ที่เขากับเพื่อนมาเที่ยวกันในคืนนี้และไอ้พวกนั้นก็หนีไปกับสาวน้อยหนุ่มน้อยที่ตกได้กันหมดทิ้งเขาไว้คนเดียว ไอ้ครั้นจะอยู่ในผับก็ไม่สนุก พอออกมาหวังว่าจะมีรถแท็กซี่ผ่านมาสักคันก็ไม่มีอีก เนื่องจากผับ X เป็นผับแถบชานเมืองที่ฮิตฮอตในหมู่นักท่องราตรีทั้งหลาย เพราะไม่มีลงตรวจ ไม่มีตรวจบัตร แต่แลกด้วยระยะทางไกลจากตัวเมืองมากโข โรงแรมที่ใกล้ที่สุดเห็นจะไปอีกเกือบยี่สิบกิโลเมตรได้

ตอนนี้เขาจะต่างอะไรจากเด็กหลงวะเนี่ย!!

แล้วไม่ต้องถามนะว่าทำไมไม่โทรเรียกเพื่อน พี่หรือญาติสนิทที่ไหน เพราะโทรศัพท์แจฮยอนลืมไว้ในรถเพื่อนคนนึง ตอนนี้ทั้งตัวมีแค่กระเป๋าตังค์เท่านั้น ไม่รู้ว่าจะโดนจี้ตอนไหน จะกลับไปหน้าผับก็กลัวจะโดนคนแถวนั้นฉุด (พูดเหมือนตรงนี้ปลอดภัย?) มีผู้ชายมามองเขาแล้วทำท่าจะขอเบอร์ด้วย บอกเลยว่าเขากลัว จริงๆจะมีจองกุก ไม่ก็ จุนฮเว คอยเป็นไม้กันหมาให้แต่ตอนนี้มันสองตัวหนีไปกับสาวหมดแล้วไง!

ไอ้พวกเพื่อนทรพี!! ต่อไปเขาจะไม่ทำรายงานให้มันแล้ว ขอให้ติดFวิชาอาจารย์โบอา สาธุ!!

แต่ตอนนี้เขาเจอความหวังแล้ว ฮาเลลูย่า~

รีบวิ่งออกจากเสาไฟฟ้าไปกลางถนน กางแขนสองข้างออกเมื่อมีรถคันนึงขับออกมาจากผับ X ขออ้อนวอนต่อพระเจ้าว่าเขาคนนี้ต้องไม่นก ถ้าไม่ได้ขึ้นรถไปอาจจะมีศพชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลานอนตายอยู่ข้างเสาไฟในวันรุ่งขึ้น เป็นแบบนั้นจริงผู้หญิงต้องหลั่งน้ำตาแน่นอน

ปี้ดดดด

เสียงแตรลากยาวจนเขาปวดแก้วหู ถึงมันจะเป็นการด่าอ้อมๆแต่เขาก็ไม่แคร์เมื่อรถหรูหยุดนิ่งอยู่กับที่ รีบวิ่งอ้อมไปด้านข้างคนขับจนเจ้าของรถต้องเลื่อนกระจกลงเผยให้เห็นสาวทรงโตเต็มล้นไปทั้งเนื้อ นม ไข่และอยู่ในชุดหลุดลุ่ย โชว์เนินอกอิ่มปรากฏร่องรอยจูบแดงๆ กระดุมกางเกงตัวน้อยถูกปลดออกให้เห็นขอบแพนตี้ลูกไม้สีแดง ส่วนคนขับก็ไม่น้อยหน้ากระดุมเสื้อเชิ้ตราคาแพงหลุดออกจากรังทุกเม็ด ช่วงล่างอาจจะกระดากอายนิดหน่อยที่หมอนี้กำลังปล่อยไอ้นั้นออกมาสู้โลกเพราะกิจกรรมระหว่างขับรถ

“อะไรของมึงวะเนี่ย!!” ดูเหมือนเขาจะเป็นตัวขัดลาภน่าดู เจ้าของรถหน้าหล่อถึงได้ถามเขามาด้วยภาษาสุดภาพสุดๆไปเลย

ดูแล้วราหูจะอมดวงชะตาเขาสินะ ถึงได้ซวยชิบหายแบบนี้ คงไม่ได้กลับห้องไปนอนซุกกองตุ๊กตาแล้วละ แจฮยอนเอ้ยยย

“คะ คือผมแค่จะโบกรถให้ช่วยไปส่งสถานีรถไฟฟ้าหน่อย ไม่ก็แค่ที่มีรถแท็กซี่ผ่านมาน่ะครับ พอดีเพื่อนทิ้งผมไปหมดเลย..ตะ..แต่ เอ่อ ไม่รบกวนดีกว่า ขอบคุณและขอโทษนะครับ”

ขยับตัวออกมาจากกระจกรถ โค้งลงขอโทษอีกฝ่าย หมุนตัวเตรียมกลับไปหาเสาไฟฟ้าเพื่อนรักอันเดิม บ่าทั้งสองข้างหนักอึ้งลู่ตก หัวก็แทบโง่ไม่ขึ้น อยากจะร้องไห้ออกด้วยความสิ้นหวังเสียจริงๆ ฮึก ฮื้อ แจฮยอนเอ้ย มึงมันโคตรซวยเลย

“ขึ้นมา!!” เสียงทุ้มห้าวตะโกนเรียกเขาที่กำลังจะเดินไปหาเสาไฟจนชะงัก พอหันมองก็พบว่าแม่สาวโคนมกำลังเดินติดกระดุมตัวเองกลับไปที่ผับพร้อมสบถคำหยาบคายร้อยแปด

คือ...ยังไงต่อเหรอ (´･_･`)

“กูบอกให้ขึ้นมา! เร็วๆ”

พอจบคำสั่งขายาวใต้กางเกงแฟชั่นก็รีบวิ่งขึ้นไปนั่งบนรถคันหรูสองที่นั่งเรียบร้อย ปิดประตูรถเบาๆก่อนคาดเข็มขัดนิรภัยเตรียมพร้อมไม่ให้โดนด่าได้อีก

“กูเบื่อตัวเองชิบหายเลยโว๊ย”

มือหนาขยี้เส้นผมสีน้ำตาลเข้มของตัวเองเหมือนกำลังเบื่ออย่างที่บอกมา ดูจากท่าทางแล้วคงเป็นพวกขี้ใจอ่อนแน่นอนเลย ถึงจะพูดหยาบคายแต่คนข้างๆก็ใจดียอมไล่สาวสวยและให้ไอ้เด๋อ2017แบบเขาขึ้นมาด้วยละนะ

อยากตอบแทนจัง

“ขอบคุณมากนะครับ ผมจอง แจฮยอน เรียนอยู่มหาลัยโซล คณะนิเทศการแสดง”

“กูไม่ได้อยากรู้...คิม มินกยู  คณะวิศวะ”

เกือบใจแป้วไปแล้วที่โดนน้ำเสียงทุ้มต่ำตอบกลับมาแบบตัดใยไม่ให้เหลือบัวสุดไรสุด แต่ก็ประโยคต่อมาก็ทำให้ใจเขาชื้นขึ้นเยอะ ถึงจะเป็นการแนะนำตัวแบบห่ามๆก็เถอะนะ

“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ มินกยู”ยิ้มกว้างให้อีกฝ่ายที่หันมามองเขาก่อนเบะปากใส่อย่างกวนส้นต- อ่า อย่างทะเล้นน่ารักแล้วหันกลับไปขับรถต่อเพราะอีกนานเลยกว่าจะถึงเขตเมืองที่พอจะมีสิ่งที่เขาต้องการ

เขาว่าแอร์รถมินกยูหนาวมากเลยละ หนาวจนขนลุกเลยเนี้ย แต่พอหันมองคนขับกลับพบว่ากระดุมเสื้อก็ยังไม่ติด แถมยังไม่เก็บท่อนล่างด้วย เรียกว่าก่อนหน้านี้อยู่สภาพไหนตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม

ไม่หนาวรึไง

“คะ...คือว่า..อา”

“อะไร” เหมือนไอ้การอ้ำอึ้งของเขาจะไปสะกิดต่อมหงุดหงิดร่างสูงเข้าถึงได้ถามออกมาซะเสียงดุเลย ถึงจะกลัวโดนไล่ลงรถขนาดไหนเขาก็อายเกินไปกับการต้องอยู่กับคนกึ่งเปลือยละนะ หมอนั้นไม่อายได้ยังไงกัน เขานี่หน้าร้อนไปหมดแล้ว ฮื้อ

“มินกยูไม่หนาวเหรอครับ คือว่า..เสื้อผ้า...มัน”

“หึ มึงอาย” หางตาคมเหลือบมองเขาที่หันหน้าหนีนิดหน่อย มุมปากหยักกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้มที่เขาลงความเห็นว่ามันก็จะน่ากลัวหน่อยๆ

มินกยูขำในลำคออีกเบาๆและมันดันเป็นช่วงไฟแดงพอดิบพอดี ทำให้อีกฝ่ายหันมามองเขาได้เต็มตาและให้ตายเถอะ เขารู้สึกตัวอยากกระโดดลงจากรถยังไงก็ไม่รู้

“กูจะเก็บได้ยังไงมันยังแข็งอยู่เลย มึงดูสิ”

มือหนาเอื้อมมาจับมือเขาไปวางไว้บนอะไรแข็งๆแต่กลับร้อนจนเหมือนไฟ เสียงครางเครือในลำคอหนาทำให้เขามีความรู้สึกแปลกประหลาด หัวใจเต้นถี่ๆจนกลัวมันจะหลุดออกมานอกอก มือไม้ก็ยังสั่นงกๆ พยายามจะรั้งไว้ไม่ให้มือใหญ่ได้ออกแรงบังคับจับส่วนนั้นแต่ก็ทำไม่ได้เมื่อแรงอีกฝ่ายมากกว่าตัวเองเยอะ

อยากร้องไห้ ทำไมไอ้หมอนี้มันโรคจิตขนาดนี้วะ!!!

“นายจะทำอะไรเนี่ยมินกยู ไม่เล่นแบบนี้นะโว๊ย”

หันไปโวยวายใส่ร่างสูงหน้าหล่อที่ตอนนี้เหมือนไม่สนอะไรที่ไหนอีกแล้ว มือใหญ่ทาบมือเขาไว้บังคับให้กำสัดส่วนแข็งขืนพร้อมออกแรงขยับรูดรั้งจนเขารู้สึกถึงเนื้อหนังได้ชัดเจน ความร้อนพุ่งขึ้นใบหน้าเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจับของคนข้างๆอยู่

“อา..มือผู้ชายจริงปะ โคตรนุ่ม ซี๊ด!”

เหี้ย!!

ไม่มีอะไรบรรยายความรู้สึกเขาได้มากกว่านี้อีกแล้ว หมอนี้ต้องเป็นโรคจิตแน่ๆ ทำไมน่ากลัวแบบนี้อะ ทำไงดีวะเนี่ย เอายังไงต่ออะ  ใครรู้บอกเขาทีเถอะ ตอนนี้ต้องการความคิดเห็นมากจริงๆ โอ๊ย จะร้องไห้แล้วเด้อ

“ทำหน้าแบบนี้กูยิ่งอยากแกล้งรู้ปะ”

“ฮะ..อื้อ!” หลบใบหน้าคมที่โฉบลงมาอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว จมูกโด่งคมกดลงกับแก้มเนียนของตัวเองจนยุบไปตามแรง พร้อมทั้งมือเรียวยังคงถูกบังคับให้ขยับตามสัดส่วนต้องห้าม

เขาหลับตาปี๋ตอนลิ้นร้อนเลียเบาๆที่ผิวแก้ม ลากยาวจนมาหยุดบนกลีบปากเม้มแน่น ดุดดันรอยแยกเบาๆให้เผยอออก หัวใจเข้าเต้นตึกๆสั่นไหว มือหนาละออกจากมือเขามาสอดเข้าใต้เสื้อยืดตัวใน ลูบไล้หน้าท้องแบนราบไม่ต่างจากหญิงสาว บีบเค้นคลึงด้วยจังหวะรุนแรงที่เขาคิดว่ามันคงขึ้นรอยมือชัดเจนแน่นอน

“มึงเป็นผู้ชายจริงปะวะเนี่ย ทำไมทั้งตัวเหมือนผู้หญิงแบบนี้วะ หื้ม”

จมูกโด่งคลอเคลียทั่วใบหน้าหวาน มือหนาเลื่อนขึ้นด้านบนสะกิดติ่งไตที่ทำให้รู้ว่าร่างขาวๆน่ากลั้นแกล้งนี้เป็นผู้ชายแน่นอน ถึงจะมีผิวเนียนเรียบ นุ่มละมุนไม่ต่างจากหญิงสาวคนๆไหนที่มินกยูเคยคั่วเผลอๆอาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ

และมินกยูโคตรจะชอบเลยวะ

“อย่า..อื้อ..แกล้ง” มือเล็กดันแผงอกหนาแต่เรือนกายสูงโปร่งก็ไม่ขยับไปไหน ดวงตากลมมองไปด้านนอกรถก่อนพบว่าตอนนี้สัญญาณไฟเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้วเรียบร้อย

“มินกยูไฟเปลี่ยน อ๊ะ สีแล้ว อื้มม”

พูดแทบไม่เป็นประโยคเมื่ออีกฝ่ายโน้มหน้าลงมาดูดดุนยอดอกผ่านเนื้อผ้า ดวงตาคมช้อนมองเขาด้วยประกายตาเจ้าเล่ห์ขี้แกล้งเพราะยอดอกอีกข้างก็ถูกเอ็นดูไม่ต่างกัน นิ้วแข็งบดขยี้รุนแรงไม่สนเสียงห้ามปรามกระท่อนกระแท่น มือข้างที่ว่างเลื่อนไปกอบกุมความต้องการแข็งขืนของเจ้าตัวพร้อมออกแรงบังคับให้รูดรั้งด้วยจังหวะถี่กระชั้น

ฝันซี่คมขบกัดปากอิ่มของตัวเองกลั้นความรู้ที่เหมือนกำลังจะมีอารมณ์ร่วมไปแล้วไม่น้อย หว่างขาปวดหนึบจนตัวงอแถมยังเสียวซ่านตรงแผ่นอก ทั้งเจ็บจี๊ดตอนโดนฟันคมขบแรงๆจนหลุดเสียงน่าอายออกมา สองมือไม่รู้ว่าต้องวางไว้ที่ไหน มันดูเกะกะไปหมด เพราะตอนนี้สติเขาพร่าเลื่อนจนแทบไม่เห็นอะไรและอาจจะยอมหมอนี้ไปเลยก็ได้ ถ้าไม่มีเสียงแตรดังมาจากด้านหลังซะก่อน

ปรี๊ดดดดดดดดดด!!

ร่างสูงผละออกจากกายหอมอย่างเสียดาย สบถคำหยาบคายออกมาเมื่อมีคนขัดจังหวะ  อีกนิดแจฮยอนจะยอมเขาอยู่แล้ว ดวงตาคมปรายมองร่างที่กำลังหอบเอาลมหายใจเข้าปอด เสื้อยืดสีดำตรงช่วงอกเปียกแฉะโชว์ตุ่มไตเม็ดเล็กเพราะน้ำลายตัวเอง

รีบเข้าเกียร์ขับออกไปจากไฟแดงเรื่อยๆไม่นานก็ถึงพื้นที่เหมาะสม เขาตบไฟเลี้ยวเข้าข้างทางอย่างทนไม่ไหว ร่างกายเหมือนระเบิดเวลาที่ยังคงเดินไปเรื่อยๆและเสียงครางอู้อี้จากร่างด้านข้างก็เหมือนทำให้ฉนวนกำลังถูกไฟเผาให้สั้นลงทุกที

“มาต่อกันดีกว่า ตรงนี้คงไม่มีใครขัด”

เลื่อนเบาะไปด้านหลังให้มีพื้นที่ด้านล่างเยอะขึ้น เปิดไฟด้านในรถก่อนจะเบิกตากว้างมองร่างขาวๆที่กำลังนั่งพิงเบาะตัวอ่อนด้วยแววตาตกตะลึง เพราะความมืดทำให้เขาไม่รู้ว่าคนด้านข้างจะน่าฟัค อา น่าฟัดขนาดนี้ หึหึ

ถึงเป็นผู้ชายก็ไม่เป็นอะไรแล้วตอนนี้

อุ้มร่างน่ากัดมาคร่อมตักตัวเองปล้นจูบหวานจากกลีบปากอิ่มล่อตา แสงไฟสีส้มนวลในรถขับให้ผิวขาวสว่างดูนุ่มนิ่มน่าสัมผัสและยิ่งชอบใจที่ผู้โดยสารจำเป็นคล้อยตามเกมส์โดยง่าย เรียวลิ้นด้านในตวัดตอบโต้กันอย่างไม่มีใครยอมใคร มือเรียวกำลังรูดรั้งกายใหญ่ให้อย่างรู้งาน บีบคลึงด้วยจังหวะช่ำชอง ซึ่งเพราะเป็นผู้ชายเหมือนกันอีกฝ่ายถึงรู้ว่าทำตรงไหนถึงจะรู้สึกดี

“อื้มม”

“อ๊ะ..อ๊าส์ อื้ม” ไม่ยอมให้ใบหน้าหวานละหาย มือหนาดันท้ายทอยนิ่มให้กลับมาใกล้เพื่อจูบต่อ เสียงชื้นแฉะไม่ทำให้ทั้งสองกระดากอายซักนิด

ปากบางผละออกเมื่อกลืนกินความหวานจนพอใจ กายโปร่งถูกดันติดพวงมาลัยรถ ดวงตาคมคายกวาดมองใบหน้าได้รูปที่มีเส้นผมสีบลอนด์สว่างที่ด้านบนเห็นไรผมสีดำยาวดัดเป็นลอนคลื่นละดวงตากลมช่ำหวาน พวงแก้มแดงระเรื่อเหมือนคนเมา กลีบปากที่เพิ่งได้ชิมบวมเจ่อจนอยากก้มลงไปตักตวงความหวานอีกรอบ

ความรู้สึกเหมือนมินกยูไม่ต่างจากชายหนุ่มผู้ดวงดีจากการเสี่ยงทายหลังจากนกหวยในวันที่ 16 อะไรแบบนี้ ตอนแรกก็หงุดหงิดที่ไอ้ตัวขาวนี้มาขัดจังหวะกับใครสักคนที่ตกได้ในผับแต่มาตอนนี้เขาคิดว่าการเก็บเด็กหลงจากข้างทางขึ้นรถมาดีกว่าเป็นไหนๆเลย

โคตรน่า..ฟัคเลย คุณ ไม่ได้ผิดหรอกรอบนี้ ไอ้ตัวขาวแม่งน่าฟัคชิบหาย

แจฮยอนมองคนตรงหน้าด้วยสติพร่าเบลอ ฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปเริ่มออกอาการให้ความยับยั้งชั่งใจศูนย์สิ้น แล้วเจ้าของรถคนนี้ยังมีชั้นเชิงการเล้าโลมอย่างดีพร้อมเสน่ห์มากมายที่กำลังทำให้เขามั่วเมาในไม่ช้า

นอกจากเหล้าก็ผู้ชายที่ชื่อคิม มินกยู นี้แหละที่ทำให้แจฮยอนเมาได้

“บนรถมันลำบากหน่อยนะ แต่เร้าใจดีว่ามั้ย แจฮยอนอา”

นิ้วชี้ยาวยื่นมาเกลี่ยกลีบปากของเขาเบาๆก่อนลากลงมาจนถึงเป้ากางเกงที่ตุงขึ้นเมื่อมีบางอย่างแข็งขืนอยู่ภายใน กลืนน้ำลายหนืดๆให้กำหนัดที่ถูกร่างสูงปลุกขึ้นได้ภายในเวลาไม่กี่นาทีและมันก็กระสันอยากสุดๆจนเขาแทบจะทนไม่ไหว

“แต่เราเป็นผู้ชายนะ” ดันแผงอกกว้างเบาๆย้ำเตือนว่าตอนนี้เขาเป็นผู้ชาย มีน้องชายเหมือนกัน แถมอกยังแบนราบเหมือนไม้กระดานขัดมัน

“แล้วยังไง ผู้ชายแบบมึงกูก็เอาได้ เห็นเพื่อนบอกว่าแน่นนักรัดหนา กูจะได้ลองนี้ไง มึงควรดีใจนะที่ได้เป็นผู้ชายคนแรกของกู”

หมอนั้นตอบกลับมายาวเหยียด สองมือก็สาละวนอยู่กับขอบกางเกงเขา รู้ตัวอีกที่เข็มขัดก็ถูกโยนทิ้งไปแล้วเรียบร้อย ตามมาด้วยเสื้อเชิ้ตตัวนอกและเสื้อยืดตัวในกำลังจะตามไปอีกไม่นานนี้แน่นอน

มือไวไปไหนวะ!!

“ดะ..เดี๋ยว”

“อะไรอีกวะ กูอยากเอามึงแล้วเนี่ย พูดมากจริง! แตกก่อนมึงค่อยพูดได้มั้ยไอ้ตัวขาว”

เหมือนมินกยูจะหงุดหงิดมากๆเลยที่เขาขัดกิจกรรมออกกำลังกายในรถตอนนี้ คิ้วตรงขมวดฉับไม่พอใจ มือหนายื่นมาบีบแก้มเขาแรงๆจนปากจู๋ ดวงตาคมจ้องตาเขาเป็นการข่มขู่กลายๆว่าถ้ายังถามอะไรนอกจากคำถามนี้อีกจะเริ่มต้นการปลุกปล้ำขืนใจแน่นอน

น่ากลัวอะ ฮื้อ แต่ก็อยาก ทำไงดี สับสนและย้อนแย้งดีจังชีวิตกูเนี่ยย

“บนรถแบบนี้จะไม่มีคนเห็นเหรอ” 

พูดเองก็อายเองถึงได้ก้มหน้าลงคางติดอก มินกยูเลิกคิ้วนิดหน่อยก่อนยักไหล่แล้วเสื้อตัวสุดท้ายของเขาก็ถูกถอดออกโยนตามสิ้นส่วนอื่นไปติดๆเป็นการตอบคำถามของเขาได้อย่างดี

“รถกูติดฟิมล์แถมเก็บเสียง มึงจะโยกแรง ครางดังแค่ไหนก็ไม่มีใครรู้ ที่นี้จะเอากันได้ยัง”

อิผี! ตบปากตัวเองสิบทีปฏิบัติ ทำไมพูดอะไรบัดสีบัดเถลิงด้วยใบหน้าตายๆได้ขนาดนี้วะ หัวใจนี่จะวายตาเด้อ พูดมาแต่ละประโยคส่อความหื่นกามทุกประโยคเลย ถ้าหน้าตาไม่ดีพูดออกมาแล้วโดนจับเข้าคุกเลยนะเนี่ยแต่นี้เป็นคิม มินกยูไง เดือนคณะวิศวกรรมศาสตร์ไง (เพิ่งนึกออกว่าเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกันเมื่อห้านาทีที่แล้ว) เลยไม่โดนจับเข้าคุกแถมใครได้ฟังแล้วจะยอมพลีกายให้ไม่ต่างจากเขาเลย

ต้นคอถูกอีกฝ่ายโน้มลงไปใกล้ก่อนประกบจูบลงมาอีกรอบ มือหนาลูบไล้ช่วงบนเปลือยเปล่า แตะตรงไหนก็ร้อนลุ่มไปทุกส่วน เหมือนเป็นถ่านหินร้อนๆที่แนบลงมาตามแต่ละส่วนของร่างกายอ่อนไหว เขายื่นตัวขึ้นก่อนดันใบหน้าหล่อให้ถอยห่าง มินกยูเลิกคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ยิ้มพรายเมื่อเข้าพลิกตัวนั่งหันหลังให้เพื่อถอดกางเกงแสนเกะกะของตัวเองออก

โน้มหน้าแนบอกไปกับพวงมาลัยรถ กวาดสายตามองด้านนอกที่มืดสนิทเพราะตรงนี้ยังไม่ใช่เขตเมือง เมื่อทำอะไรเสร็จสิ้นแล้วเขาก็กลับไปนั่งตักร่างสูงต่อ ร่องก้นอิ่มถูกส่วนแข็งแนบลงล็อคพอดีเหมือนมันเกิดมาคู่กัน เขาไม่รอช้าจะขยับเอวให้เสียดสีกันและไม่นานคนที่อดทนมาตลอดก็ปลดปล่อยเลอะก้นของเขา

“ซี๊ดดด!!”

ใบหน้าหวานแหงนหงายก่อนถูสะโพกกับแกนกายที่อ่อนยวบหลังปลดปล่อยให้แข็งขืนขึ้นมาอีกครั้ง แผ่นหลังบางถูกดันรุนแรงจนหน้าเกือบฟาดกับคอลโซนรถแต่ไม่มีเวลาให้หันไปด่าร่างสูงเมื่อก้านนิ้วทั้งสามสอดใส่เข้ามาในร่างกาย นิ้วเย็นควานไปทั่วผนังนุ่มได้ยินเสียงซี๊ดปากจากด้านหลังและบ่นอะไรอีกยาวเหยียด แต่ตอนนี้เขาไม่ขอรับรู้อะไรอีกแล้วเพราะความต้องการเขามีมากเกินกว่าจะแบ่งพื้นที่ให้สมองตัวเองคิดอย่างอื่น

อยากได้บางอย่างมาเติมเต็มร่างกาย

อะไรก็ได้ที่ใหญ่กว่านิ้วทั้งสาม

อา...อยากได้ของมินกยูจัง

เมื่อความต้องการทำให้หน้ามืดลืมแม้แต่ความกระดากอาย แจฮยอนก็เลยร้องขอการเติมเต็มอย่างหน้าไม่อาย เอนตัวไปด้านหน้าใช้ใบหน้าวางบนพวงมาลัย สองมือน้อยแยกแก้มก้นอิ่มของตัวออกจนเห็นช่องทางร้อนที่กำลังขมิบถี่อย่างเชิญชวน

“ดะ...ได้โปรด..เราไม่ไหวแล้วอยากได้ของมินกยู อื้ออ”

คนถูกยั่วมองภาพตรงหน้าด้วยสายตาแพรวพราว ถ้าไม่ติดว่าในรถพื้นที่จำกัดร่างสูงคงพุ่งตัวไปขย้ำเด็กหลงขี้ยั่วให้นอนครางเสียงหวานไปแล้ว ตอนแรกก็แค่อยากจะแกล้งเพราะยังไงไอ้ตัวขาวก็เป็นผู้ชาย คงทำไม่ลงแต่ผิดถนัดเมื่อเขามาเจอท่าทางยั่วเยของอีกฝ่ายเข้าให้

นอกจากจะไม่ทำให้อยากอ้วกแล้วยังอยากจับมากระแทกแรงๆให้รู้แล้วรู้รอด

ออกแรงกดแกนกายใหญ่ของตัวเองเข้าไปในช่องทางร้อนช้าๆ ครางพึงพอใจกับแรงตอดรัดถี่รัวเหมือนจะหลอมละลายกายแกร่งให้รวมเป็นร่างเดียวกัน แยกแก้มก้นอิ่มน่ากัดออกจากกันมองความเป็นชายตัวเองที่กำลังสอดแทรกเข้าไปในตัวอีกคนช้าๆ เลียกลีบปากแห่งผากที่เกิดจากความกระหายรสรักระหว่างค่อยๆเคลือนตัวจนสุดความยาว

“อา...ดีชิบหาย อื้มม”

“ซี๊ด มิน..ก...อ๊าส์!” ครางเสียงหลงตอนส่วนหยักมนแตะต้องจุดไวต่อความรู้สึกภายในแผ่วเบา เหมือนคนด้านหลังจะรู้ถึงได้กระแทกกลับเข้ามาอย่างแรงจนเขาตัวเกร็งตอดรัดความใหญ่โตภายในแน่น

เกาะคอลโซนรถไว้มั่นตอนเอวบางถูกจับประคองไว้รองรับเอวหนาที่ขยับรุนแรงเหมือนสัตว์ป่าหิวโซ สัมผัสเจ็บแปลบเกิดขึ้นกับแผ่นหลังตอนกลีบปากหยักลึกกดเม้มสร้างรอย ก่อนเขาจะถูกดึงกลับไปจนแผ่นหลังแนบกับอกกว้างเพื่อให้ได้ออกแรงขยับเคลื่อนอย่างรู้งาน

ใจเต้นตึกตักตอนไฟหน้ารถฝั่งตรงข้ามสาดส่องผ่านเข้ามา กลัวเหลือเกินว่าคนอื่นจะรู้ว่าเขากำลังทำอะไรกับเดือนวิศวะภายในรถสปอร์ตคันหรูแต่ก็อดตื่นเต้นไม่ได้เมื่อเซ็กส์ริมทางในรถแบบนี้ท้าทายจนต้องขยับร่อนสะโพกโชว์ลีลารักเร้าใจ

“อ๊า แรงอีก ซี๊ดด เอวดีนี้หว่า ”

มือหนาฟาดเต็มแรงกับแก้มก้นอวบจนขึ้นรอยมือแดงก่ำ บีบขย้ำรุนแรงตามความใคร่ในกายออกแรงส่งกระแทกสวนเอวบางถี่ยิบ สอดมือประคองหน้าอกแบนราบ บดขยี้ยอดอกแข็งที่กำลังชูชันสู้นิ้ว งับท้ายทอยนิ่มเบาๆก่อนทำรอยไว้จนทั่วซอกคอหอมกรุ่นเหมือนกลิ่นแป้งเด็ก

ช่วยรูดรังความต้องการร่างด้านบนให้จนได้ยินเสียงเสียงหวีดแหลม แจฮยอนคล้ายหมดแรงจนต้องพิงอกเขาไว้ ละมืออกจากความน่ารักสีชมพูไปเกี่ยวข้อพับขาขึ้นเพื่อให้ตัวเองได้ขยับสะโพกกระแทกจุดไว้ต่อความรู้อีกคนและเหมือนมันจะเร้าใจจนช่องทางอ่อนนุ่มบีบรัดรุนแรงทำเอาเขาทนแทบไม่ไหว

“อะ อ๊าส์ ซี๊ดด มินกยู อึก อะ อ๊าส์แรงอีก เราจะ..จะ อ๊าส์”

แจฮยอนหวีดครางเสียงหลงเหมือนตัวเองบินสูงขึ้นๆตอนที่ช่องทางรักถูกกระหน่ำรัวใส่ไม่ยั้ง รีบสาวรูดความต้องการของตัวเองตามจังหวะเอวสอบ มีบ้างที่หัวกระแทกหลังคารถแต่เขาก็เลือกไม่ใส่ใจ ทิ้งตัวแนบกับอกกว้างแหงนคอซบบ่าพร้อมครางเครือข้างหูคนผิวแทน

“อึก กูก็ใกล้แล้ว แจฮยอน ซี๊ดดด!!”

สองร่างคำรามต่ำในจังหวะสุดท้ายก่อนจะปลดปล่อยมวลน้ำแสนอึดอัดออกมาในเวลาไล่เลี่ยกัน มินกยูกระแทกอีกสามสี่ครั้งรีดความต้องการของตัวเข้าไปในช่องทางร้อนผ่าว ก่อนหันใบหน้าหวานมารับจูบให้รางวัลเด็กหลง

แจฮยอนปรือตามองอีกฝ่ายก่อนเร่งจังหวะรสจูบให้ร้อนแรงมากขึ้น มากขึ้น มากขึ้นอย่างตะกละตะกลาม ขมิบช่องทางบวมช้ำที่มีบางส่วนอยู่ภายใน กระตุ้นให้มันกลับมาพร้อมออกแรงสู้อีกครั้ง

“ออกไปลองหน้ากระโปรงรถหน่อยมั้ย” เสียงทุ้มกระซิบดังข้างใบหูอ่อน แจฮยอนขนลุกซู่ไปกับคำชวนนั้น

“ออกไปก่อนเลย เดี๋ยวตามไป”

มินกยูพยักหน้ารับแกนๆ ดูดปากเขาไปอีกทีก่อนถอนกายออก อีกฝ่ายลงจากรถเดินไปรอเขาด้านนอก เบะปากใส่ร่างที่ยังอยู่ครบชุดไม่มีหลุดสักชิ้นแตกต่างจากเขาที่หลุดออกหมดทุกชิ้นแล้ว รีบหยิบเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ขึ้นมาคลุมกายหมิ่นแหม่ จัดการอะไรอีกหน่อยจนเรียบร้อยแล้วลงไปกอดเอวหนาออดอ้อน

“สูบมั้ย” บุหรี่ไฟฟ้ายื่นมาตรงหน้าให้เขาดูก่อนควันหอมๆจะถูกปล่อยออกมาจากกลีบปากสีแดง

“ได้ก็ดี” อ้าปากรับแท่งบุหรี่ร้อนให้ฝ่ายกดปุ่มให้ก่อนสูดความหอมหวานแสบคอเข้าเต็มปอดแล้วพ่นมันออกมาช้าๆจนควันลอยคลุ้งไปหมด

ยังไม่ทันตั้งตัวร่างสูงก็ดันให้นอนราบไปกับกระโปรงรถ เรียวขายาวถูกจับแยกออกจนหน้าขาติดแผ่นอกโชว์ช่องทางสีสดก่อนมินกยูจะทำให้เขาแปลกใจเมื่อลิ้นร้อนกวาดเลียรอยจีบเปื้อนน้ำคาวของเจ้าตัวเบาๆ

“อะ ไม่ต้อง อื้ออ มินกยู ซี๊ดดด”

สติบินหายตอนลิ้นร้อนสอดเข้ามาด้านใน เสียงจ๊วบจ๊าบดังน่าอายแต่เขากลับเลือกจะไม่สนอะไรแม้แต่แสงไฟสีส้มที่ส่องมา รถคันนั้นคงอยู่ไม่ไกลจากพวกเขาเท่าไหร่ แต่ใครสนกันและจริงมั้ย ตอนนี้แม้แต่พระเจ้าก็หยุดพวกเขาไม่ได้แล้ว

ร่างสูงยื่นตัวขึ้น ริมฝีปากสีสดติดคราบน้ำขุ่นแต่ลิ้นร้อนก็กวาดเลียเก็บความหวานเข้าไปจนหมด แกนกายร้อนสอดใส่เข้ามาอีกครั้งอย่างง่ายดาย มือหนาดันขาเรียวให้แยกกว้าง ดึงสะโพกผายเข้ามาหาตัวก่อนกระแทกถี่ยิบ

“อา...ตอดแรงๆ ซี๊ดด”

ขมิบตอดรัดตามคำสั่ง นอนราบไปกระโปรงรถที่เครื่องยนต์กำลังทำงานอยู่ หน้าเหยเกตอนอีกฝ่ายส่งแรงกระแทกมาเกินขีดจำกัด แต่ก็ไม่ได้ห้ามปรามอะไรออกไปเพราะตอนนี้จะพูดให้ชัดยังยากเลย

“อะ..อ๊าส์..มะ..ซี๊ดด..อะ..อะ..อ๊ะ..อา!!”

ดวงตากลมพร่าเลื่อนไปด้วยน้ำตาสีใสที่ไหลออกมาไม่หยุดด้วยความสะใจ ภาพท้องฟ้ายามคำคืนที่กำลังจดจ้องอยู่ถูกแทนที่ด้วยใบหน้าหล่อเหลา ความรู้สึกเบาสบายถูกสะโพกสอบที่กำลังเคลื่อนไหวไม่หยุดหย่อนกระชากออกเป็นความเสียวซ่าน แรงส่งแต่ละครั้งก็ทำเอาเขาสะใจจนแทบสำลักความเสียวตาย

เนื้อตัวสั่นสะท้านเมื่อความใหญ่โตควานลึก ยิ่งลึกก็ยิ่งเสียว ยิ่งเสียวก็ยิ่งตอด ยิ่งตอดก็ยิ่งถูกกระทำ และจอง แจฮยอนโคตรจะชอบบทรักครั้งนี้เลย เหมือนกำลังบินอยู่ในสวรรค์ชั้นเจ็ด เขาเห็นแต่สีขาวโพลนรอบกาย สติก็ลอยหายไปกับอีกฝ่ายแล้วเรียบร้อย

จังหวะสุดท้ายร่างสูงส่งแรงจนร่างที่นอนราบอยู่บนกระโปรงรถไถลเคลื่อนตามแรง กดยึดเอวบางแล้วปลดปล่อยความต้องการในช่องทางนุ่มอีกครั้ง ถอนกายออกก่อนช่วยอีกฝ่ายจนเสร็จในเวลาไม่กี่นาทีต่อมา

ก้มลงหอมแก้มเนียนใส จูบเบาๆเอาใจคนที่กำลังหอบถี่ ซุกไซร้ซอกคอประดับรอยรักเบาๆก่อนเงยหน้ามองดวงตาเชื่อมหวาน กระตุกยิ้มมุมปากก่อนสอดใส่ความต้องการแข็งขืนไปอีกครั้ง

“คืนนี้อีกยาวว่ะ พอดีกูติดใจข้างหลังแล้วเนี่ย”

เสียงฮัมเพลงดังมาจากร่างขาวในชุดเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่สีแดงลายสก็อตกับกางยีนส์สีดำเข้ารูปชวนมอง ดวงตาคมปรือปรอยเหมือนยังไม่ตื่นดี ลำคอขาวประดับด้วยร่องรอยสีแดงเข้มเป็นจุดๆ ทำให้คนรอบข้างหน้าแดงวาบเมื่อรู้ว่าอะไรคือสาเหตุให้อีกฝ่ายดูง่วงงุนขนาดนี้

รอไม่นานก็มีรถสปอร์ตสี่ที่นั่งเข้ามาจอดเทียบ ประตูด้านข้างคนขับเปิดออกให้แจฮยอนได้เขาไปนั่งหนีสายตาใคร่รู้ของคนด้านนอก อ้าปากหาวหวอดกว้างๆไม่เกรงใจเพื่อนทั้งสามคนคาดเข็มคัดนิรภัยพร้อมรถที่เคลื่อนตัวออกไปจากคอนโดหรูของคิม มินกยู

“ไงมึง ง่วงมาเลย เป็นไงบ้างวะ” 

เพื่อนฟันกระต่ายชะโงกหน้าจากเบาะหลังถามถึงภารกิจสำคัญโดยมีจุนฮเวนั่งมองเงียบๆข้างกันอย่างใส่ใจไม่น้อย เว้นก็แค่ยูคยอมที่กำลังตั้งสมาธิขับรถอยู่ไม่ได้หันมาสนใจแต่หูมันก็กางรับเสียงอยู่ดี

เขาไม่พูดอะไรต่อหยิบกล้องตัวเล็กขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง ถอดเมมการ์ดก่อนต่อเข้าเครื่องจีพีเอสที่ดูหนังได้ให้ปรากฏคลิปเกือบสองชั่วโมงเต็ม ในคลิปเป็นภาพผู้ชายสองคนที่กำลังนั่งซ้อนกันอยู่ในรถหรูถึงจะเห็นแต่ช่วงบนก็สามารถรู้ได้ว่าทั้งคู่กำลังทำอะไรกัน

เสียงโหแซวดังขึ้นจากทั้งรถก่อนเสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์เขาจะดังขึ้นตาม รีบหยิบขึ้นมาดูก่อนพบว่ามีเงินเข้าในบัญชี15ล้านวอนจากไอ้จองกุก ไอ้ยูคยอม(ที่ไอ้จองกุกโอนให้)และก็ไอ้จุนฮเว

“ขอบคุณสำหรับเงินนะพวกมึง แล้วคนต่อไปที่จะให้กูล่าแต้มนี้ใครวะ”

“ชา อึนอู เดือนนิเทศ หล่อ รวย ใจดี สุภาพบุรุษ ไม่เคยกับผู้ชายและมีแฟนอยู่แล้ว เดี๋ยวประวัติกับชีวิตประจำวันที่เหลือกูจะส่งให้ในเมล์ ครั้งนี้ถ้ามึงทำสำเร็จกูให้คนละ 20 ล้านวอน”

“ดีล 20 ล้านวอน J”

เม้นที่เดิมเด้ออออ